สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับหลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2560

ช่วงนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายๆท่าน  คงกำลังติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำหลักสูตรไปใช้ในระดับ ป.1 ป.4 ม.1 และ ม.4 ในปีการศึกษา 2561 อีกเพียงไม่กี่เดือนต่อจากนี้้
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งเรื่อง ให้ใช้มาตรฐานและตัวชี้วัด กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2560 อ้างอิง https://drive.google.com/file/d/0B9t56k6dmUe5Ul9yc0o5TG43Um8/view และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ สพฐ. 30/2561 ลงวันที่ 5 มกราคม 2561  เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) อ้างอิงhttps://drive.google.com/file/d/1UHeCXXby0lT6SMNckOL2Qdw5QSDZTIa1/view

ซึ่งทำให้หลายๆท่านเกิดความสับสนและไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของหลักสูตรที่เกิดขึ้น ผมจึงได้นำเนื้อหารายละเอียดในคำสั่งดังกล่าวมาจัดทำเป็นแผนผังมโนทัศน์สรุปสาระสำคัญเพื่อให้เห็นภาพรวมของหลักสูตรใหม่และให้ง่ายต่อความเข้าใจของคุณครู ซึ่งขอสรุปเป็นประเด็นที่สำคัญ ได้ดังนี้

1. กลุ่มสาระฯ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับหลักสูตรใหม่ มีเพียง 3 กลุ่มสาระ คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษาฯ ในสาระภูมิศาสตร์ ส่วนกลุ่มสาระฯการงานอาชีพและเทคโนโลยี มีผลกระทบเล็กน้อยเพราะมีการย้ายสาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จากกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีมาเป็นสาระที่ 4 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

*หมายเหตุ ปัจจุบันยังไม่มีประกาศยกเลิกสาระที่ 2 และ 3 ของกลุ่มสาระการงานอาชีพฯ อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผมเอง จึงขอตรวจสอบในประเด็นนี้ก่อนอีกครั้ง แล้วจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป


2. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ยังคงมีรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมเหมือนเดิม แต่ในส่วนของรายวิชาเพิ่มเติม มีการกำหนดผลการเรียนรู้ในหลักสูตร ให้มีความชัดเจนและง่ายสำหรับการนำไปใช้มากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้


2.1 กลุ่มสาระฯคณิตศาสตร์
- ปรับลดเนื้อหา
- ปรับย้ายเนื้อหาระหว่างชั้น
- เพิ่มเนื้อหาใหม่
- แบ่งรายวิชาออกเป็น

*คณิตศาสตร์พื้นฐาน ที่กำหนดสาระการเรียนรู้แกนกลาง กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สำหรับผู้เรียน ชั้น ป.1-ม.3 และ ม.4-6 แผนการเรียนอื่นๆ จำนวน 3 สาระการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต
สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต
สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น

*คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ที่กำหนดสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กำหนดผลการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานการเรียนรู้ในสาระที่ 1-3 และผลการเรียนรู้ในสาระแคลคูลัส สำหรับผู้เรียนชั้น ม.4-6 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์

2.2 กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์
- ปรับลดเนื้อหา
- ปรับย้ายเนื้อหาระหว่างชั้น
- เพิ่มเนื้อหาใหม่
- แบ่งรายวิชาออกเป็น
*วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่กำหนดสาระการเรียนรู้แกนกลาง กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สำหรับผู้เรียนชั้น ป.1-ม.3 และ ม.4-6 แผนการเรียนอื่นๆ จำนวน 4 สาระการเรียนรู้
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วย

- การออกแบบและเทคโนโลยี
- วิทยาการคำนวณ โดยสามารถดาวน์โหลดคำอธิบายรายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี และวิชาวิทยาการคำนวณได้ที่ http://oho.ipst.ac.th/ipst-cs-course-description/
*วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ที่กำหนดสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม และกำหนดผลการเรียนรู้ สำหรับผู้เรียนชั้น ม.4-6 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 สาระการเรียนรู้
สาระชีววิทยา
สาระเคมี
สาระฟิสิกส์
สาระโลก ดาราศาสตร์ อวกาศ


ทั้งนี้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติมและวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมอื่นๆ ในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถเปิดสอนได้ตาม ความพร้อมและจุดเน้นของโรงเรียน ตามความต้องการและความถนัดของผู้เรียน โดยโรงเรียนกำหนดผลการเรียนรู้ของรายวิชานั้นๆ
2.3 กลุ่มสาระฯสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- ปรับสาระภูมิศาสตร์ ที่ให้ความสำคัญกับการรู้เรื่องภูมิศาสตร์ (Geo-Literacy) ซึ่งเน้น ความรู้ทางภูมิศาสตร์ ความสามารถทางภูมิศาสตร์ ทักษะทางภูมิศาสตร์และกระบวนการทางภูมิศาสตร์
- มีการตัดเนื้อหา เพิ่มเนื้อหา เปลี่ยนคำและข้อความบางส่วน


3. การจัดรายวิชาตามโครงสร้างของหลักสูตรและการปรับหลักสูตรสถานศึกษา ยังคงมีรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมเหมือนเดิม แต่ต้องมีการเปิดรายวิชาใหม่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีการย้ายสาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จากกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีมาเป็นสาระที่ 4 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย มาตรฐาน ว 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี และ มาตรฐาน ว 4.2 วิทยาการคำนวณ โดยเฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์เดิม ที่จะต้องเปลี่ยนรหัสวิชาจาก "ง" มาเป็น "ว" (นี่ผมยังคิดว่า ถ้าเอาตามหลักสูตรใหม่แบบเดิมก่อนเปลี่ยนแปลงที่กำหนดให้ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาและโลก ดาราศาสตร์อวกาศเป็นรายวิชาพื้นฐาน โรงเรียนคงวุ่นวายกับการกำหนดรหัสวิชาใหม่อย่างแน่นอน การที่ สพฐ. กลับลำให้เป็นรายวิชาเพิ่มเติมเหมือนเดิม โดยส่วนตัวผมคิดว่าทำให้ง่ายสำหรับโรงเรียนมากขึ้น)


4. การจัดครูผู้สอน กลุ่มสาระฯคณิตศาสตร์ กับ สังคมศึกษาฯ คงมีผลกระทบไม่มากนัก หลักๆคงเป็นกลุ่มสาระฯ วิทยาศาสตร์ที่จะต้องนำครูเทคโนโลยี/ครูคอมพิวเตอร์ ซึ่งเดิมอยู่กับกลุ่มสาระฯการงานอาชีพ มารวมกับกลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ จึงอาจส่งผลให้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ มีจำนวนครูผู้สอนเพิ่มขึ้น มีจำนวนรายวิชาที่เปิดสอนและจำนวนคาบสอนเพิ่มขึ้น อาจกระทบกับอัตรากำลัง ดังนั้นโรงเรียนจึงต้องวางแผนในระยะยาว นอกจากนี้อาจประสบปัญหาต้องเปิดรายวิชาใหม่ตามมาตรฐาน ว 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี ที่เป็นลักษณะของการจัดกิจกรรมตามแนวคิดสะเต็มศึกษา ซึ่งอาจหาครูผู้สอนในวิชานี้ได้ยาก (เกี่ยงกันระหว่างครูวิทย์กับครูคอม) เพราะครูผู้สอนวิชานี้ต้องเข้าใจ Concept ของ STEM Education พอสมควร ส่วนประเด็นเรื่องที่นั่งของครูว่าครูคอม ต้องย้ายมานั่งห้องพักครูวิทย์ไหม อันนี้คงแล้วแต่ความเหมาะสมตามบริบทของแต่ละสถานศึกษา จะนั่งตามที่เดิมก็ไม่ได้มีผลอะไรสิ่งสำคัญหรือเปลี่ยนแปลงหลักสูตรและการสอนต่างหาก


5. การใช้หลักสูตรกับนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ
- ปีการศึกษา 2561 เริ่มใช้กับ ระดับ ป.1 ป.4 ม.1 และ ม.4
- ปีการศึกษา 2562 เริ่มใช้กับ ระดับ ป.1 ป.2 ป.4 ป.5 ม.1 ม.2 ม.4 และ ม.5
- ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไป ใช้ครบทุกระดับชั้น
อย่างไรก็ตามในปีการศึกษา 2561 ที่จะถึงนี้คงจะยุ่งๆ และวุ่นวายหน่อยเพราะเป็นปีแรกของการใช้หลักสูตรใหม่และยังต้องใช้หลักสูตรเดิมควบคู่กันไป ครูผู้สอนก็อาจมึนๆไปบ้าง


6. หนังสือเรียนตามหลักสูตรใหม่ ที่จะใช้ในระดับ ป.1 ป.4 ม.1 และ ม.4 ในปีการศึกษา 2561 เท่าที่ทราบ ณ ตอนนี้คงยังไม่มีสำนักพิมพ์ไหนที่ทำเสร็จและได้รับอนุญาต เนื่องจาก สพฐ. เพิ่งออกคำสั่งใหม่และมีการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ กับคณิตศาสตร์มากพอสมควร สำนักพิมพ์คงต้องกลับไปปรับกันใหม่ ยังไงโรงเรียนก็คงต้องเลือกหนังสือจากสำนักพิมพ์ใดสำนักพิมพ์หนึ่งไปก่อนเพราะช่วงนี้ก็เป็นช่วงพิจารณาหนังสือเรียนแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น